My first DIY hom made soap

-- Snow Coffee & O-Coffee Cheese Bar--

บ้ากวนสบู่ในคืนคริสมาสอีฟ และวันคริสมาส

ต้นเหตุมาจาก อยากจะทำของขวัญปีใหม่เอง ให้เพื่อนๆพี่ๆที่ออฟฟิต

นึกอะไรไม่ออกก็สบู่นี่แหละ ง่ายสุด

สบู่แบบ Melt and Pour

เชื่อมะว่าหาเบสสบู่แทบตายอยู่สองอาทิตย์

ไปสำเพ็งแม่งไม่มีขายเลย มีแต่แบบใส ซึ่งเราไม่ชอบอะ

ชุดทำสบู่เหลวก็หมด

อีกอาทิตย์นึงก็ไปตามหาที่เจเจ

ก็ไม่มีขายอีกต้องไปซื้อที่โรงงาน

เอาเข้าไป...

สุดท้าย ไม้ตาย ก็ต้องใช้สบู่ตามตลาดเนี่่ยแหละ

แบบแรก ลองไปซื้อสบู่น้ำนมข้าว ที่ขายอยู่ทั่วไป

ท่าพระจีนทร์ขายเยอะมากสบู่แบบนี้

หอมดีนะ ชอบมากๆเลย ฟองเยอะดี

แล้วก็ปฏิบัติการตามสูตร

...........................

ทำไมสบู่ไม่เห็นละลายเหมือนในเว็บบอกเลยวะ

ลองทั้งเคี่ยว ทั้งต้ม ทั้งไมโครเวฟ

แม่ง เน่า เละ เหนียวหนืด

มีแอบระเบิดในไมโครเวฟด้วยทีนึง

ทำไปจะร้องไห้ไป ทำไมไม่เหมือนในรูปเลยวะ

คิดไปคิดมา หมดสบู่ไป6 ก้อนได้มั้ง

ลองเปลี่ยนสบู่ดูดีกว่า

คราวนี้ใช้สบู่ธรรมด๊า ธรรมดาเลย สบู่เนื้อแข็ง น้ำหอมกลิ่นแรงจัด

(พอดีมีอยู่ที่บ้าน 1 ก้อน)

เนื้อแข็งแบบหั่นไม่ได้เลย ขูดได้อย่างเดียว

ขูดเสร็จเอาเข้าไมโครเวฟ เอออ เฮ้ยมันละลายว่ะ

พอละลายได้ที่ก็เริ่มผสม ขมิ้นบ้าง ทานาคาบ้าง

แล้วก็กากกาแฟ ลองทำใส่แม่พิมพ์ซานต้า

จะเป็นยังไงๆๆ  จะแข็งมั้ย

แล้วก็ออกมาหน้าตาแบบนี้

ไม่สวยเท่าไหร่ เพราะตอนเทลงพิม กวนมากไป กวนจนมันจะแข็งตัวแล้ว

ก็เลยออกมาแบบไม่เนียน

สังเกตจะมีสองชั้น อีกชั้นผสมกากกาแฟด้วย

ตั้งชื่อให้ว่า Snow Coffee Soap

เหลือส่วนที่ผสมกากกาแฟเลยเอาไปใส่พิมพ์ถ้วยไอติม

ออกมาหน้าตาเยี่ยงนี้ฮ่ะ

การที่กวนสบู่ไม่ละเอียด ไม่เข้ากันดี 

เลยทำให้เห็นเนื้อสบู่สีขาว

ลายเลยเหมือนหินอ่อน เราชอบแบบนี้นะ สวยดีอะ แต่มันคืองานหยาบ

ถ้างานละเอียดเนื้อและลายมันควรจะเนียนๆ

พอแข็งตัวดีแล้วก็เอามาห่อแร็ป ติดโลโก้ มารยา

ออกมาเป็นฉะนี้แล

ปิ๊งงงง

โลโก้แอบใหญ่ไปนะ แหะๆ

ยัง

ยังไม่จบ

ฉันยังไม่พอใจ สบู่ที่ฉันทำมันต้องสวยกว่านี้สิ

ในเมื่อสบู่ที่เตรียมไว้ใช้ไม่ได้เลย แต่สบู่ในบ้านกลับใช้ได้

เอาสิ ชั้นต้องทำให้ได้

ดั้นด้นไป 7 เลยค่ะ ลองซื้อสบู่หลายๆแบบกลับมา

ซื้อนมมาด้วย ไฮโซ สบู่ชั้นต้องใส่นม

คราวนี้ลองกับสบู่สีครีม เนื้ออ่อน

ต่างกับอันข้างบนเพราะอันนี้อ่อนแบบตัดได้เลย

จริงๆในใจก็แอบกลัวจะเหมือนสบู่ที่ซื้อมาตอนแรก กลัวมันไม่ละลายจะเสียดายตังมาก

ก็เลยต้องขูดเป็นฝอย ชัวสุด มันต้องละลายบ้างน่ะ

ขูดเสร็จก็เอาไปเวฟ เอ้อออ ละลายได้อยู่ๆ

แล้วก็จัดแจงผสมทานาคา และพวกออยเหมือนเดิม

ไม่ได้ใส่น้ำหอมเพราะสบู่กลิ่นแรงอยู่แล้ว

ผสมเสร็จคราวนี้เทลงพิมพ์กล่องวุ้น

ไม่ต้องยุ่งยากละ กลัวเจ๊ง ขี้เกียจแงะออกจากพิมพ์อีก

ก้อนแรกเบๆ เทชั้นแรก ทีนี้ทำชั้นสองเหมือนเดิม แต่เติมเศษสบู่ส้มที่หั่นไว้ลงไปด้วย

เวลาตัดสบู่จะได้มองเห็นสีสัน

ชั้นที่สาม ละลายสบู่แล้วผสมกับกากกาแฟ พระเอกของเรา

พอเทชั้นสุดท้ายเสร็จก็ตกแต่งด้วบเศษสบู่ส้มอีกรอบ

หน้าตาออกมาเป็นฉะนี้

เย้ เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

มันแข็งจริงๆด้วย

โอ้ววว  กว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้ นั่งกวนมา6ชม.เต็ม ไม่นับอีก3ชม.ของมะคืน

พอแข็งตัวเต็มที่แล้วก็แกะออกจากพิมพ์

แอบเอาไปใส่ตู้เย็นแป๊ปนึงด้วย แต่ไม่เวิคว่ะ

สบู่ส้มมันระเหยง่ายมาก เลยต้องไว้ข้างนอกให้แข็งเอง

ชม.นึงก็แข็งเต็มที่

แกะออกมาแล้วววว

แต๊แดนนนน

เย้ !!!!

เป็นชั้นเรียงตัวสวยงามมากกก

ตอนแรกคิดว่าจะไม่เนียน

แต่ก็ได้อยู่ๆๆ

ลองมองด้านข้างอีกสักนิสสส

ขอบๆแอบแหว่ง เพราะตอนแกะมือหนักไปหน่อย

เวลาแกะออกจากพิมพ์ ควรจะใช้มีดแซะๆก่อน

แล้วจแกะง่าย สบู่จะเนียนๆสวยๆ

เสร็จแล้วก็เข้าสู่กระบวนการหั่นค่ะ

หั่นเป็นชิ้นๆ

ไม่ยากนะ เพราะสบู่ไม่แข็งเลย ค่อนข้างนิ่มทีเดียว

แต่ไม่เละ  อยู่ตัวเป็นทรง

หั่นออกมาแล้วแทบบหัวใจวาย

นี่หรือที่เรียกว่าความสำเร็จ

.......

แทบจะร้องไห้เลยทีเดียว

ซึ้้ง

ตัดได้ทั้งหมด 8 ก้อนค่ะ

รูปแอบมืดไปหน่อย

เพราะเสร็จก็ค่ำคืนละ

เห็นมั้ย มีสีส้มๆตรงกลางด้วย

สีเบสสบู่ สีครีม เหมือนชีสเลย

น่ารักน่ากินเป็นที่สุด

เรียงราย ก่ายกองงง

กองสบู่ของกะต่ายน้อย

เย้ !!

ลองดูชั้นอีกที

จริงๆมีทั้งหมด สามชั้น

ชั้นแรกสบู่นม ทานาคา และออยต่างๆ

ชั้นสองเมือนชั้นแรกเติมสบู่ส้ม

ชั้นสามผสมกากกาแฟ

โปะ ตบแต่งหน้าด้วยสบู่ส้มอีกที

ก้อนที่แปดแบ่งครึ่งเป็นสองชิ้นเล็ก

จริงๆชิ้นเล็กก็พอดีมึงแล้วนะ

ดูนานๆชักอยากกิน แหะๆ

ชิ้นเล็กเอามาห่อแร็ป ติดโบโก้เข้าไป

เป็นอันเรียบร้อย ส่งมอบได้

ชิ้นนี้ให้วัตตี้ไป

ถ้าไม่มีคุณวัต สบู่เราก็อาจจะไม่สำเร็จ

อิอิ

ตอนยังไม่ติดโลโก้

ตัดเป็นชิ้นเล็กๆก็ดูน่ารักไปอีกแบบ

อันนี้บรรดาชิ้นปกติ

ติดโลโก้แล้ววางเรียงราย

เหมืนอนชีสที่ขายในห้างเลย

ตรงชั้นกากกาแฟ เป็นชีสแบบขึ้นรา

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

สวยงามเกินความคาดหมายจริงๆ

สมแล้วที่อดทนรอคอย

นั่งกวนมา 1วัน1คืนเต็มๆ

เน่าไปก็ตั้งเยอะ

ทิ้งไปก็ตั้งหลายหม้อ

แบชสุดท้ายสำเร็จ นี่โคตรรรรรรร  ดีใจเลย

ตื่นเต้นมากก

ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้

การทำสบู่ ก็เป็นศิลปะอย่างนึงนะ

แล้วก้เป็นวิชา ที่ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ

ชอบสบู่ แบบ Melt and Pour นี้มากอะ

อาจจะชอบมากกว่า สบู่ CP อีก

เพราะว่ามันเร็วกว่า ใช้เวลาน้อย สบู่แห้งไวดี

เหมาะกับคนใจร้อนอย่างเรา

และในที่สุด ค่ำคืนคริสมาส ของเราก็ผ่านไปด้วยดี

ผ่านไปพร้อมกับความสำเร็จ

^_________^